คนในฝ่ายประชาธิปไตย กับ กกต.สมชัยฯ ถึงแม้จะต้องสู้รบปรบมือ กับความไม่เป็นกลางของแกมาตลอด
แต่ก็ต้องยอมรับว่าบางมุม แกก็พอทำให้อาจารย์ธิดาฯ ของพวกเรายิ้ม(กับกล้อง)ได้ครับ..!!
อย่างน้อยการได้พูดคุยกันบ้าง ก็ยังดีกว่าหัวหน้าพรรคการเมืองบางพรรคฯ ที่ "แค่หันหน้ามาเจรจา ก็ปิดฉากการพูดคุย" เสียแล้ว
การลอยตัวอยู่เหนือปัญหา จนเป็นตำนานการเมืองในลักษณะ "เอาดีใส่ตัว เอาชั่วใส่คนอื่น" ถือเป็นสิ่งที่นักการเมืองรุ่นใหม่ ไม่ควรปฏิบัติครับ
ทุกฝ่ายควรหันหน้ามาคุยกัน อย่างน้อยก็ 3 ฝ่าย ที่มีส่วนร่วมทำให้ทหาร ยกมาเป็นเหตุผลในการยึดอำนาจอธิปไตย มาเป็นของตนเอง จนโดนนานาอารยประเทศกดดันทุกด้าน ต้อนเราเข้ามุมอับดังเช่นทุกวันนี้
>>พรรคเพื่อไทย จะทำอะไร ก็ต้องฟังเสียงประชาชนให้มากขึ้น ก่อนจะผลักดันนโยบาย หรือจะดำเนินการเรื่องอะไร ก็ต้องพูดคุยทำความเข้าใจ กับพรรคการเมืองอื่น ให้ตกผลึกเสียก่อน
>>พรรคประชาธิปัตย์ และ กปปส. ซึ่งก็มาจากแหล่งเดียวกันทั้งหมด ก็ควรเล่นการเมืองในสภาฯ เป็นหลัก จะกดดันแสดงท่าทีอะไร ก็ขอให้ทำแต่พองาม เปิดช่องให้สามารถแก้ไขสถานการณ์ ด้วยระบอบประชาธิปไตยได้บ้าง
>>ทหารก็เช่นกัน ควรช่วยเหลือรัฐบาลที่มาจากประชาชน ให้เหมือนกับการช่วยเหลือรัฐบาลที่มาจากพวกตนเองด้วย ไม่ใช่พอประเทศเป็นประชาธิปไตยก็บอก "การเมืองต้องแก้ไขด้วยการเมือง" ทหารไม่เกี่ยว ปล่อยให้บ้านเมืองวุ่นวาย เข้ามุมอับไปเรื่อยๆ
แต่พอทหารมีอำนาจ ยึดอำนาจไปบริหารเอง กลับใช้กำลังทหาร กดดันประชาชนในทุกๆ เรื่อง ถ้ากลไกการใช้กำลังทหารเป็นแบบนี้ เพียงอีกไม่กี่ปีประเทศก็จะถูกผลักให้เข้าทางตัน เป็นเหตุให้ทหารปฏิวัติกันได้เรื่อยๆ
ถ้าทุกฝ่ายเดินสายกลาง ถอยหลังคนละก้าว ถ้าไม่พอก็ 2-3 ก้าว และหันหน้ามาพูดคุยกัน ประเทศไทยจะเจอทางออก ที่เป็นประชาธิปไตย
ไม่ต้องรัฐประหารซ้ำซาก ทำประเทศชาติล้าหลัง จนเพื่อนบ้านแซงหน้ากันไปหมด แบบนี้ครับ